เชื้อโรคที่มากับอาหารการกิน ในช่วงน้ำท่วมขัง

เชื้อโรคที่มากับอาหารการกิน ในช่วงน้ำท่วมขัง ช่วงนี้บางพื้นที่อาจจะประสบปัญหาน้ำท่วม จะเดินทาง หรือหาของมารับประทานก็คงจะยากลำบากน่าดู ทางรพ.ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านที่ประสบปัญหาอุทกภัยด้วยนะครับ กลับเข้ามาที่เรื่องสาระความรู้ในวันนี้ บางพื้นที่มีน้ำท่วมขังการจะรับประทานอาหาร หรือเครื่องดื่มอาจจะมีเชื้อโรคปนเปื้อนมาด้วย โรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อนเลยขอนำ Q&A (ถาม-ตอบ) แบบที่ประชาชนทั่วไปน่าจะเข้าใจได้ง่ายมานำเสนอครับ โดยวันนี้ได้รับเกรียติจาก รศ.ดร.องอาจ มหิทธิกร หัวหน้าภาควิชาพยาธิโปรโตซัว คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล  มาตอบคำถามต่างๆเกี่ยวกับเชื้อโรคที่อาจจะมากับอาหารการกินในช่วงน้ำท่วมขัง   ถาม : ก่อนอื่นอยากให้อธิบายคร่าวๆให้ประชาชนทั่วไปทราบว่า อะไรคือพยาธิโปรโตซัวครับ? ตอบ: โปรโตซัวเป็นสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวขนาดเล็กไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า โดยทั่วไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมทำหน้าที่ควบคุมจำนวนของแบคทีเรีย แต่มีโปรโตซัวบางชนิดจำเป็นต้องอาศัยอยู่ในสิ่งมีชีวิตอื่นและทำให้เกิดโรค จึงเรียกโปรโตซัวกลุ่มนี้ว่า “พยาธิโปรโตซัว” ครับ   ถาม: ช่วงนี้บางพื้นที่มีน้ำท่วมขัง มีเชื้อโรคชนิดใดบ้างที่ต้องระวังเป็นพิเศษ? ตอบ: ช่วงน้ำท่วมขังอาจมีความเสี่ยงต่อเชื้อโรคหลายชนิดเพิ่มขึ้น แต่เนื่องจากวันนี้พูดถึงพยาธิโปรโตซัว ก็อยากให้ระวังควรระวังโปรโตซัวกลุ่มที่อาศัยอยู่ในลำไส้ พวกนี้จะออกมากับอุจจาระคนหรือสัตว์ ยกตัวอย่างที่เราเคยได้ยินชื่อมาบ้างก็คือ โรคบิดมีตัวครับ   ถาม: อาจจะติด หรือได้รับเชื้อโรคบิดมีตัวได้ยังไงบ้างครับ? ตอบ: โดยปกติระยะติดต่อที่ออกมากับอุจจาระคนที่ถ่ายนอกส้วมหรือมูลสัตว์ จะปนเปื้อนผักผลไม้หรือแหล่งน้ำตามธรรมชาติ เรามักจะได้รับเชื้อจากการกินอาหารและน้ำที่ไม่สะอาด แต่ในสถานการณ์น้ำท่วม น้ำอาจจะพัดพาเอาเชื้อที่ปนเปื้อนอยู่ในสิ่งแวดล้อมมาใกล้ชิดเรามากขึ้น ซึ่งการที่มือเราสัมผัสน้ำแล้วไม่ล้างมือก่อนกินก็อาจเป็นช่องทางให้เชื้อเหล่านี้เข้าปากเราได้  …

พยาธิตัวตืด

พยาธิตัวตืด (Tapeworm) เป็นพยาธิที่พบได้ทั่วโลก ชนิดที่พบบ่อยได้แก่ พยาธิตัวตืดหมูและพยาธิตืดวัว พยาธิตืดวัวจะพบได้บ่อยกว่าพยาธิตืดหมู โดยเฉพาะในประเทศที่มีการเลี้ยงหมู วัว ควาย และนิยมรับประทานทั้งหมู เนื้อวัว และเนื้อควาย ไข่   มีลักษณะกลมสีน้ำตาลเหลือง เมื่อหมูหรือวัวกินไข่ของพยาธิตัวตืดเข้าไป ไข่จะฟักเป็นพยาธิตัวอ่อนในลำไส้แล้วไชเข้ากระแสเลือดไปอยู่ในกล้าม เนื้อทั่วร่างกาย และอวัยวะอื่นๆ ของหมูหรือวัว ลักษณะเป็นถุงน้ำใสเล็กๆ ขาวๆ คล้ายเม็ดสาคู มีหัวของพยาธิอยู่ภายใน ซึ่งเป็นระยะติดต่อ เมื่อคนกินหมูหรือวัวที่มี เม็ดสาคูโดยไม่ปรุงสุก หรือสุกๆดิบๆ พยาธิตัวอ่อนจะโผล่หัวออกมา และเจริญเติบโตเป็นพยาธิ เต็มวัยเกาะติดอยู่กับผนังลำไส้เล็กโดยมีปล้องยาวออกไปเรื่อยๆ พยาธิตัวเต็มวัยทำ ให้เกิดอาการท้องอืด อาหารไม่ย่อย เบื่ออาหาร รวมทั้งคลื่นไส้ อาเจียน และซีด จากภาวะโลหิตจาง พยาธิตัวเต็มวัย จะอาศัยอยู่ในลำไส้เล็กของคน จะใช้ส่วนหัวเกาะที่ผนังลำไส้ และปล่อยให้ลำตัวแขวน เคลื่อนไหวเป็นอิสระในลำไส้ พยาธิตัวตืดมีลักษณะตัวแบนๆ คล้ายเส้นบะหมี่ พยาธิตืดหมูมีขนาดเล็กและสั้นกว่าพยาธิตืดวัว โดยมีขนาดประมาณ 2-4 เมตร ส่วนพยาธิตืดวัวโดยปรกติจะมีขนาดยาว *5-10 เมตร พยาธิจะสลัดปล้องสุกเป็นท่อนๆ ออก มาเป็นคราวปนออกมากับอุจจาระ สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า…

ฝังเข็มคือ?

Acupunctureฝังเข็มคือ? ฝังเข็ม เป็นการรักษาแบบแพทย์ทางเลือก โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านเวชศาสตร์แผนจีน วิธีการรักษาแบบฝังเข็มเป็นการใช้เข็มแทงลงไปในร่างกาย กระตุ้นให้เกิดอาการเจ็บและมีการตอบสนองต่อการกระตุ้นนั้น ให้เกิดการซ่อมแซมหรือรักษาในส่วนที่ขาดหายไป หรือส่วนที่เกินก็จะถูกระบายออก โดยจะหลีกเลี่ยงการใช้ยาในการรักษาแบบทางเลือกนี้ ฝังเข็มเจ็บมั้ย ก็จะเจ็บนิดนึง เนื่องจากเป็นการแทงเข็มลงไปในร่างกาย และใช้ความเจ็บในการกระตุ้นกระแสประสาท ทำให้เส้นเลือดขยาย การไหลเวียนของเลือดเยอะขึ้น เม็ดเลือดแดง เม็ดเลือด รวมไปถึงสารหลั่งต่างๆ ก็จะช่วยซ่อมแซมในส่วนต่างๆได้ดีขึ้น การฝังเข็มรักษาอะไรบ้าง 1. คนไข้ส่วนใหญ่จะมาด้วยอาการปวด เช่น ปวดหัว ปวดไหล่ ปวดหลัง ปวดขา หรือเข่าเสื่อม เป็นต้น จะฝังเข็มประมาณ 4-5ครั้งอาการก็จะดีขึ้น บางรายอาจจะฝังเข็มถึง 10 ครั้งแล้วค่อยหยุดพักได้ สำหรับรายที่เป็นแค่กล้ามเนื้ออักเสบธรรมดา สามารถฝังเข็ม 1-2 ครั้ง และกระตุ้นด้วยไฟฟ้า คนไข้ก็จะดีขึ้น หลังจากนั้นหากมีอาการก็สามารถมาทำซ้ำได้ 2. ปรับสภาพร่างกาย คนไข้ที่มีจะมีอาการ เช่น ภูมิแพ้ หูดับ การปรับประจำเดือน ใช้เวลาประมาณ 10 ครั้ง โดยจะมาอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง ก็จะกลับมากระตุ้น…

Winter is coming – อาการไม่สบายที่ต้องไปพบแพทย์

Winter is comingอาการไม่สบายที่ต้องไปพบแพทย์ ❄️❄️❄️ถึงแม้จะไม่หนาวขนาดหิมะตก แต่ในหลายๆพื้นที่ก็ค่อนข้างมีอากาศหนาวเย็นอยู่พอสมควร และแน่นอนครับเมื่ออากาศหนาวจัดหลายท่านอาจจะไม่สบาย หรือมีอาการต่างๆที่สงสัยว่าจะไม่สบาย แต่ก็ยังลังเลและไม่แน่ใจว่าควรไปพบแพทย์ดีไหม ซึ่งวันนี้จะมาเน้นย้ำกันสั้นๆว่าหากมีอาการเหล่านี้ควรรีบไปพบแพทย์ทันทีเลยนะครับ – มีน้ำมูก อาการนำของหลายสาเหตุ เช่น อาการภูมิแพ้บางอย่าง หรืออาจจะเป็นการติดเชื้อไวรัส ถ้าหากติดเชื้อไวรัสหรือเป็นหวัด น้ำมูกอาจจะข้นและมีน้ำมูกมากขึ้น รวมทั้งมีอาการอื่น ๆร่วมด้วย เช่น มีไข้ เจ็บคอ มีเสมหะ เป็นต้น ซึ่งหากมีอาการเหล่านี้ควรรีบไปพบแพทย์อย่างด่วนเลยนะครับ – ไอ, จาม, เจ็บคอ มีเสมหะ ไม่ว่าจะเป็นไข้หวัดธรรมดา หรือโรคติดเชื้อไวรัสต่าง ๆ อาการเหล่านี้ล้วนเป็นพื้นฐานของอาการไข้ ซึ่งมักจะเป็นอาการร่วมหากเป็นไข้หวัดธรรมดา ราว 4-5 วันอาการเหล่านี้จะดีขึ้น หากมีอาการหลายวันติดต่อกัน และหากไอ จามมีเลือดปนเสมหะออกมา ควรรีบไปพบแพทย์เลยนะครับ – มีไข้ อาการไข้มีหลายระดับ เอาเป็นว่าหากวัดอุณหภูมิร่างกายแล้วสูงกว่า 37.5 oc (วัดทางปาก) แสดงว่าท่านมีไข้แล้วล่ะครับ หากหลังจากพักผ่อนหลายวันแล้วยังคงมีไข้สูงต่อเนื่อง และมีอาการอื่นๆร่วมด้วย เช่น ไอ จาม…

อาหารเป็นพิษ (Food Poisoning)

โรคอาหารเป็นพิษ (Food Poisoning) อาหารเป็นพิษ (food poisoning) อาหารเป็นพิษ เป็นภาวะที่เกิดจากรับประทานอาหารหรือน้ำที่มีการปนเปื้อนเชื้อโรคเข้าไป ทำให้มีอาการคลื่นไส้อาเจียน ปวดท้องและท้องเสียถ่ายเหลวตามมา อาหารเป็นพิษสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่เด็กเล็กไปจนถึงผู้สูงอายุ โดยทั่วไปอาหารเป็นพิษเป็นภาวะไม่รุนแรงและสามารถหายได้เอง แต่หากเกิดอาการรุนแรงก็อาจทำให้เกิดการสูญเสียสารน้ำและเกลือแร่ได้ สาเหตุ สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อโรคจำพวก S.aureus หรือ B. cereus หรือ C. perfringens ที่มีการปนเปื้อนในอาหาร อาทิเช่น ข้าวผัด ขนมจีน อาหารกระป๋อง เป็นต้น โดยเชื้อโรคเหล่านี้จะมีการผลิตสารพิษ (enterotoxin) ที่ทนต่อความร้อนได้ดี เมื่อผู้ป่วยรับประทานอาหารที่มี enterotoxin เข้าไปก็จะเกิดอาการของอาหารเป็นพิษตามมา อาการ ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะมีอาการคลื่นไส้อาเจียนนำมาก่อนและเด่นกว่าอาการท้องเสีย อาการคลื่นไส้มีได้ทั้งรุนแรงไม่มากจนถึงรุนแรงมากจนไม่สามารถทานอาหารได้ ส่วนใหญ่มักมีอาการหลังรับประทานอาหารที่สงสัยประมาณ 2-16 ชั่วโมง หลังจากนั้นก็จะมีอาการปวดท้อง ท้องเสียถ่ายเหลวเป็นน้ำตามมา นอกจากนี้ยังอาจพบผู้ที่รับประทานทานอาหารร่วมกับผู้ป่วยก็อาจจะมีอาการได้เช่นเดียวกันในเวลาที่ไล่เลี่ยกัน วิธีการรักษา โดยปกติถ้าอาการของผู้ป่วยไม่รุนแรง สามารถหายได้เองภายใน 24-48 ชั่วโมง โดยรักษาตามอาการ (symptomatic treatment) เช่น ดื่มน้ำเกลือแร่ทดแทน, ทานยาแก้คลื่นไส้อาเจียนหรือยาแก้ปวดท้อง…

ความรู้เบื้องต้นเรื่องโรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน (Acute Diarrhea)

โรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน (Acute diarrhea) โรคอุจจาระร่วงหรือท้องเสียเฉียบพลัน เป็นโรคที่พบได้บ่อยในเวชปฏิบัติ พบได้ทุกเพศทุกวัย นิยามของท้องเสียโดยองค์การอนามัยโลก (WHO) คือ การถ่ายอุจจาระเหลวหรือเป็นน้ำตั้งแต่ 3 ครั้งขึ้นไปใน 24 ชั่วโมงหรือถ่ายเป็นมูกเลือด 1 ครั้งขึ้นไปใน 24 ชั่วโมง ในที่นี้จะขอกล่าวถึงอาการท้องเสียเฉียบพลันซึ่งอาการท้องเสียจะเกิดขึ้นระยะเวลาไม่เกิน 2 สัปดาห์ หากปล่อยให้เกิดอาการท้องเสียโดยที่ไม่ได้รับการรักษา อาจทำให้ผู้ป่วยสูญเสียเกลือแร่ สารน้ำ และช็อค ซึ่งทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ตามมาได้   สาเหตุ สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการท้องเสียเฉียบพลัน ในที่นี้จะแบ่งออกเป็นสาเหตุดังต่อไปนี้ การติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร ไม่ว่าจะเป็น การติดเชื้อ แบคทีเรีย, ไวรัส, พยาธิ เป็นต้น การได้รับยาหรือสารพิษต่างๆ เช่น ยาปฏิชีวนะ, ยาระบาย, ยารักษาโรคเก๊าท์ เป็นต้น โรคอื่นๆ ในระบบทางเดินอาหาร เช่น ไส้ติ่งอักเสบ, เยื่อบุช่องท้องอักเสบ, ลำไส้ขาดเลือด เป็นต้น การติดเชื้อ อื่นๆ นอกระบบทางเดินอาหาร เช่น…

โรคเท้าช้าง

โรคเท้าช้าง Lympphatic filariasis โรคเท้าช้าง เป็นโรคที่เกิดจากหนอนพยาธิตัวกลมฟิลาเรีย มีลักษณะคล้ายเส้นด้ายอาศัยอยู่ในระบบน้ำเหลืองของคน โดยมียุงเป็นพาหะนำโรค มีอาการที่เห็นได้ชัด คือ ขา แขน หรืออวัยวะเพศบวมโตผิดปกติ เนื่องจากภาวะอุดตันของท่อน้ำเหลือง สาเหตุและแหล่งระบาด โรคเท้าช้างในประเทศไทยมี 2 ชนิด ชนิดแรกเกิดจากเชื้อ Brugia malayi มักมีอาการแขนขาโต พบมากในบริเวณที่ราบทางฝั่งตะวันออกของภาคใต้ ตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไปจนถึงนราธิวาส โดยมียุงลายเสือ (Mansonia) เป็นพาหะ ยุงชนิดนี้กัดกินเลือดของสัตว์และคน ชอบออกหากินเวลากลางคืน มีแหล่งเพาะพันธุ์ตามแอ่งหรือหนองน้ำที่มีวัชพืชและพืชน้ำต่างๆ เช่น จอก ผักตบชวา แพงพวยน้ำ หรือหญ้าปล้อง ชนิดที่สองเกิดจากเชื้อ Wuchereria bancrofti มักทำให้เกิดอาการบวมโตของอวัยวะสืบพันธุ์และแขนขา พบมากในบริเวณภาคตะวันตกของประเทศไทย เช่น ที่อำเภอสังขละบุรี อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี; อำเภอแม่ระมาด จังหวัดตาก; อำเภอละอุ่น อำเภอเมือง จังหวัดระนอง เป็นต้น ยุงพาหะนำโรคเท้าช้างชนิดนี้ได้แก่ยุงลายป่า (Aedes niveus group) เพาะพันธุ์ตามป่าไผ่ ในโพรงไม้…

โรคพยาธิใบไม้ปอด

โรคพยาธิใบไม้ปอด Lung flukes โรคพยาธิใบไม้ปอด ชนิดพาราโกนิมัส Paragonimus เข้าไปอาศัยอยู่ในปอด โรคนี้เกิดได้ในคนและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหลายชนิด เช่น แมว สุนัข เป็นต้น การติดต่อโรค คนและสัตว์ติดต่อโรคได้โดยการกินปูและกุ้งน้ำจืดบางชนิดที่ดิบๆ เช่น ปูน้ำตก ปูลำห้วย ปูป่า กุ้งฝอย ที่มีตัวอ่อนระยะติดต่อของพยาธิใบไม้ปอดอยู่ ตัวอ่อนระยะติดต่อของพยาธิจะไชทะลุผนังลำใส้เล็กส่วนต้นออกสู่ช่องท้องผ่านกระบังลมเข้าฝังตัวในปอด เจริญเป็นตัวเต็มวัยอยู่ในถุงหุ้ม และออกไข่สีเหลืองอมน้ำตาลจำนวนมาก ไข่จะออกมากับเสมหะและบางครั้งอาจพบตัวพยาธิในเสมหะด้วย ถ้าคนไข้กลืนเสมหะอาจพบไขพยาธิในอุจจาระ ไข่ที่ปนเปื้อนในน้ำจะเจรฺญเติบโตในหอยและปูตามลำดับ รูปปูขน Eriocheir japonicus เป็นตัวนำโฮสท์ตัวกลางตัวที่สองของพยาธิ P. westermani ที่พบบ่อยที่ประเทศญี่ปุ่น จีนและเกาหลี พยาธิตัวอ่อนระยะติดต่อ (metacercaria) จะอยู่ในเหงือกของปู อยู่เรียงกันเป็นแถว รูปกุ้ง Procambarus clarkii ตัวนำโฮสท์ตัวกลางตัวที่สองอีกชนิดหนึ่งของพยาธิ P. westermani วงจรชีวิตพยาธิใบไม้ปอด แหล่งระบาด พบโรคนี้ในหลายประเทศของทวีปเอเชีย แอฟริกาและอเมริกาใต้ สำหรับประเทศไทยมีรายงานผู้ป่วยในบางท้องที่ของจังหวัดเพชรบูรณ์ สระบุรี นครนายก เชียงราย น่าน เลย ราชบุรี…

โรคพยาธิหอยโข่ง

โรคพยาธิหอยโข่ง Angiostrongyliasis โรคพยาธิหอยโข่ง เป็นโรคที่เกิดจากพยาธิตัวกลมที่มีชื่อว่า แองจิโอสตรองจิลัส แคนโตเนนซิส  Angiostrongylus cantonensis ซึ่งตามปกติเป็นพยาธิที่อาศัยอยู่ในหลอดเลือดแดงของปอดหนู รูปร่างลักษณะ                                                                                           …

โรคพยาธิใบไม้ตับ

โรคพยาธิใบไม้ตับ (Liver flukes) โรคพยาธิใบไม้ตับในประเทศไทย เกิดจาก พยาธิใบไม้ตับ ชนิด Opisthorchis viverrini ซึ่งมีรูปร่างแบนคล้ายใบไม้ ส่วนหัวและท้ายเรียวมน ขนาด ยาว 7-12 มม. กว้าง 2-3 มม. พบมากทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ ส่วนภาคอื่นๆ พบน้อย โรคนี้เป็นสาเหตุหลักของโรคมะเร็งท่อน้ำดีในคนไทย การติดโรค โรคนี้เกิดจากการกินอาหารประเภทน้ำจืดชนิดมีเกล็ดที่มีตัวอ่อนของพยาธิอยู่ หากทานดิบ หรือสุกๆ ดิบๆ เช่น ก้อยปลา ปลาหมกไฟ ปลาร้า ฯลฯ ปลาในประเทศไทยที่พบว่ามีพยาธิตัวอ่อน เช่น ปลาซิว ปลาสร้อย ปลาขาว ปลาตะเพียน ฯลฯ อาการ ระยะแรกๆมักจะไม่มีอาการ เมื่อมีพยาธิสะสมมากๆเป็นเวลานานจะทำให้เกิดอาการ เช่น ท้องอืด แน่นท้อง เจ็บบริเวณชายโครงขวา ออกร้อนบริเวณหน้าท้อง ถ้าปล่อยไว้นานๆ จะมีอาการอักเสบของท่อน้ำดี ตัวเหลือง ตาเหลือง ตับโต มีไข้ บางรายอาจกลายเป็นมะเร็งท่อน้ำดีในตับ และอาจถึงตายได้…